นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้างและรถจักรยานยนต์ (จยย.) สาธารณะ พ.ศ.2565 ว่าพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ออกมา เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่ง ขบ.ได้ดำเนินการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ขับรถยนต์รับจ้างและรถ จยย. สาธารณะตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สาระสำคัญของพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์สามล้อรับจ้าง รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง และรถ จยย. สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.65-30 ก.ย.66 ให้ปรับลดภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 เช่น รถแท็กซี่ น้ำหนักรถ 1,300 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 685 บาท ลดเหลือ 68.50 บาท/คัน หรือน้ำหนักรถ 2,100 กกคำพูดจาก สล็อตทดลองเล่นฟรีถ. เดิมจัดเก็บภาษี 1,250 บาท/คัน ลดเหลือ 125 บาท/คัน รถยนต์สามล้อรับจ้างเดิมจัดเก็บภาษี 185 บาท/คัน ลดเหลือ 18.5 บาท/คัน รถ จยยคำพูดจาก สล็อต เว็บตรง. รับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 100 บาท/คัน ลดเหลือ10 บาท/คัน เป็นต้น
กระทรวงคมนาคม ขบ. ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โรคระบาดและปัญหาเศรษฐกิจที่มีต่อรายได้ในการดำรงชีพของผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างและรถ จยย. สาธารณะ และได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะก่อนหน้านี้ เช่น มอบเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถ จยย. สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกอบอาชีพ ขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (29 จังหวัด) เป็นต้น